Thursday, August 27, 2015

กินองุ่นอย่าคายเม็ด

“กินองุ่นอย่าคายเม็ด” เวลากินองุ่นคายเม็ดทิ้งกันหรือเปล่า ?
ใครที่ตอบว่าใช่ ร้องไห้ได้เลย เพราะคุณเพิ่งจะคายของดีที่สุดไปซะแล้ว
เม็ดองุ่นเม็ดเดียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี ถึง 20 เท่า และสูงกว่าวิตามินอีถึง 50 เท่า การคายเม็ดออกมาจึงเท่ากับคายตัวยาที่จะช่วยให้คุณมีผิวสวย ลดริ้วรอย ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ป้องกันมะเร็ง โรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับจอประสาทตาด้วย…..ไม่ต้องไปซื้อสารสกัดจากเมล็ดองุ่นให้เปลืองเงิน กินเม็ดสดๆ นี่ล่ะเวิร์คสุดยอด
“สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าวิตามิน C ถึง 20 เท่า” 

1 การลดลงของความเสี่ยงของมะเร็ง — โรคมะเร็งและจังหวะมีทั้งที่เกิดจากสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดไม่ดีและนักวิจัยพบว่าการรักษาความมหัศจรรย์นี้แปลกจริงสามารถย้อนกลับความเสี่ยงที่หลาย ๆ คนได้และสมบูรณ์กำจัดโอกาสในการรับโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดไม่ดี สุขภาพ
2 ลดความดันโลหิตสูงใน — ความดันโลหิตสูงเป็นสิ่งที่คนนับล้านต้องจัดการกับ, และสารสกัดนี้จะช่วยป้องกันการว่าด้วยการย้อนกลับของคราบจุลินทรีย์อย่างสมบูรณ์สร้างขึ้นในผนังหลอดเลือดแดง
3 เพิ่มการเผาผลาญอาหาร  หลายคนเห็นการเพิ่มขึ้นในอัตราการเผาผลาญซึ่งจะช่วยในการลดเนื้อเยื่อไขมันในร่างกาย
4 เพิ่มวิสัยทัศน์  คนที่ได้รับอาหารเสริมบางครั้งได้สังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นในการมองเห็นโดยรวมและมีความเข้มแข็งแม้ประสาทตา
5 การส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน  ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้รับเพิ่มมากเพราะโดยรวมของสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในสารสกัดของตัวเอง
6 เพิ่มความแข็งแกร่ง — มีการไหลเวียนที่ดีกว่ากลุ่มกล้ามเนื้อสามารถรับออกซิเจนมากขึ้นเนื่องจากการไหลเวียนที่ดีขึ้นของขอบคุณสีแดงเลือดเซลล์เพื่อลดการเกิดคราบสร้างขึ้นเพื่อให้การออกกำลังกายได้นานและได้รับผลกระทบมากขึ้น
“จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าสารสกัดที่ได้ จากเมล็ดองุ่นสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ เมื่อนำมาศึกษาในหนูทดลองซึ่งมีการให้อาหาร ที่มีปริมาณน้ำตาลสูง พบว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีฤทธิ์ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้ รวมทั้งยังป้องกันเบต้าเซลล์ซึ่งเป็นเซลล์ที่อยู่ในตับอ่อน มีหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งผู้ป่วยเบาหวานจะมีฮอร์โมนอินซูลินน้อย หรือตับอ่อนสร้างฮอร์โมนชนิดนี้ไม่เพียงพอ รวมถึงฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายผู้ป่วยทำงานได้ไม่ดี” บทความจาก อ.ดร.สุวิมล ทรัพย์วโรบล